ฝ่ายฝึกวิชาชีพ
PROJECTS




หลักการและเหตุผล
ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ ได้ดำเนินการฝึกอบรมวิชาชีพต่างๆ ให้กับผู้ต้องขัง เพื่อให้มีทักษะประสบการณ์ มีทางเลือกในการประกอบอาชีพสุจริตภายหลังจากพ้นโทษ เช่น วิชาชีพนวดแผนไทย วิชาชีพการประกอบอาหารและเครื่องดื่ม วิชาชีพงานศิลปะ วิชาชีพการเย็บผ้า วิชาชีพช่างไม้เครื่องเรือน วิชาชีพการเย็บปัก ถักร้อย และวิชาชีพการทอผ้าไทยพื้นบ้าน โดยเฉพาะการฝึกอบรมวิชาชีพด้านการทอผ้า ได้ดำเนินการภายใต้กรอบแนวคิดการน้อมนำแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาปฏิบัติเพื่อการเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้ต้องขังให้ใช้ชีวิตแบบพอเพียงเมื่อพ้นโทษ โดยมีเป้าหมายหลักในการสร้างกระแสสังคม ค่านิยมของผู้ต้องขังให้มีการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้เป็นกรอบความคิดหรือส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต ผ่านการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับหลักเศรษฐกิจพอเพียง และสามารถนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม ด้วยหลัก ๓ ประการ คือ “ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี” โดยอยู่บนเงื่อนไขของความรู้และคุณธรรม ทั้งนี้ ได้เน้นกระบวนการดำเนินงานการเปลี่ยนวิถีชีวิตผู้ต้องขังให้ใช้ชีวิตแบบพอเพียงเมื่อพ้นโทษ และเมื่อต้องโทษอยู่ในทัณฑสถานฯ เกิดการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต โดยใช้ชีวิตแบบพอเพียง ผ่านการฝึกอบรมวิชาชีพด้านการทอผ้าไทยควบคู่กับการศึกษาเรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ต้องขังให้สามารถพึ่งพาตนเองได้บนวิถีความพอเพียงภายหลังจากพ้นโทษ โดยสอดคล้องกับสภาพพื้นที่ สังคม ภูมิปัญญาท้องถิ่นของตน ในขณะเดียวกันการที่ฝึกอบรมให้ผู้ต้องขังได้ประกอบอาชีพทอผ้า ขณะต้องโทษอยู่ในทัณฑสถานฯ ยังเป็นการสร้างอาชีพควบคู่กับการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมในท้องถิ่นล้านนา จากการได้ทอผ้าพื้นเมืองทั้งผ้าไหมและผ้าฝ้ายตามแบบล้านนาด้วย
ในช่วงเริ่มต้น ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ ได้ทำการสำรวจกี่ทอผ้าภายในทัณฑสถานฯ พบว่า เกิดการชำรุดทรุดโทรม ไม่สามารถใช้งานได้ ในขณะเดียวกัน ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่มีทรัพยากรบุคคลที่มีค่า มีความสามารถพิเศษ เป็นกำลังการผลิตด้านการทอผ้าแบบหลากหลาย เนื่องจากผู้ต้องขังที่อยู่ในทัณฑสถานฯ มีที่มาจากหลากหลายท้องถิ่นวัฒนธรรม ทั้งชาวไทยใหญ่ ชาวพื้นเมือง และผู้ต้องขังจากภาคต่างๆ ที่ถูกย้ายระบายมาคุมขัง นับได้ว่าหากได้ริเริ่มการทอผ้าไทยจะได้ลายผ้าที่มีความเป็นเอกลักษณ์และมีความหลากหลายเหมาะแก่การเป็นแหล่งการเรียนรู้วัฒนธรรมด้านการทอผ้าไทย
จากการสำรวจดังกล่าว ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ จึงเห็นว่าสามารถดำเนินการสร้างพื้นที่ ซึ่งเป็นศูนย์การศึกษาเรียนรู้ศิลปะการทอผ้า ควบคู่กับการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงภายในทัณฑสถานฯ ได้อย่างครบวงจรตั้งแต่การผลิตในระดับต้นน้ำ (การพัฒนาปัจจัยการผลิต) ระดับกลางน้ำ (การแปรรูป) และระดับปลายน้ำ (การตลาด) โดยการผลิตในระดับต้นน้ำ ได้ดำเนินการให้การฝึกอบรมผู้ต้องขังให้เกิดการปรับเปลี่ยนนำแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ควบคู่กับการฝึกอบรมการทอผ้าไทยให้มีความชำนาญเกิดการเรียนรู้กระบวนการผลิต การจัดการผลผลิต
ในระดับกลางน้ำ จากการฝึกอบรมวิชาชีพการทอผ้าไทย ผู้ต้องขังเกิดความชำนาญ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ทำให้สามารถทอผ้าที่มีลายเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นได้อย่างประณีต และอาจต่อยอดไปจนถึงการสร้างลายผ้าใหม่ๆ ได้
ในระดับปลายน้ำ สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจของพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ จากการเกิดแหล่งศึกษาดูงานแห่งใหม่ ซึ่งเป็นที่รู้จักและเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกเข้ามาเยี่ยมชมสัมผัส ผลิตภัณฑ์จากการทอผ้า อาจนำแสดงและจำหน่ายในงานนิทรรศการผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ งานแสดงสินค้า OTOP ของจังหวัด และมูลนิธิหรือร้านค้าในพระองค์
